ประวัติฟอสซิล ไมโครแรปเตอร์ มีจุดเริ่มต้นการค้นพบตั้งแต่เมื่อไหร่ หลายท่านอาจยังไม่รู้ ว่ามีการค้นพบฟอสซิลของไดโนเสาร์ชนิดนี้อยู่บนโลก จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามันเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดเล็ก จากยุคครีเทเชียส ประมาณ 120 ล้านปีก่อน จุดเด่นคือมีโครงสร้างคล้ายปีก มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
ประวัติฟอสซิล ไมโครแรปเตอร์ ตัวอย่างแรกได้รับการอธิบายนั้น เป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างไคเมอริก ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนหลากหลายสายพันธุ์ เกิดจากการรวบรวมมาจากตัวอย่างหลายชิ้นในประเทศจีน และลักลอบนำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ซู่ซิง ได้ตีพิมพ์คำอธิบายหางของไมโครแรปเตอร์ในวารสาร
มีการตั้งชื่อหางของมันว่า Archaeoraptor liaoningensis เพื่อพยายามลบชื่อดังกล่าว ออกจากบันทึกทางบรรพชีวินวิทยา โดยกำหนดให้หางชิ้นนี้เป็นของสัตว์ที่เล็กที่สุด อย่างไรก็ตาม ซู่ซิงได้ค้นพบซากของตัวอย่างหางของสัตว์ชนิดนี้ และได้ตีพิมพ์คำอธิบายเกี่ยวกับตัวอย่างดังกล่าวในปีนั้น โดยตั้งชื่อ Microraptor zhaoianus
สำหรับตัวอย่างแรกที่มีการพูดถึง Microraptor เป็นตัวแทนของสัตว์ขนาดเล็ก และมีคนปกคลุมจางๆ ที่ไม่ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี และไม่พบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะ ในปี 2002 นักบรรพชีวินวิทยาชาวอเมริกัน มาร์ค อัลเลน นอเรลล์ ได้อธิบายและกำหนดโฮโลไทป์ของชิ้นส่วนนี้ขึ้นมาว่า BPM 1 3-13 [1]
ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากค้นพบฟอสซิล
หลังจากที่ร่างของไดโนเสาร์ชนิดนี้กลายเป็นฟอสซิล ขนกลายเป็นฟอสซิลเช่นเดียวกับโครงสร้างอื่นๆ พวกมันมักทิ้งร่องรอยของเมลสนิน หรือเซลล์สร้างเม็ดสี ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ในปี 2012 นักวิจัยชาวจีนเผยว่า พวกมันเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่มีขนหนาปกคลุมเป็นชั้นๆ
ขนเหล่านี้เป็นเงาและมีสีรุ้ง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สวยงาม ที่อาจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความประทับใจ ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อความสามารถในการบินขึ้นไปในอากาศ ยังไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่าไดโนเสาร์ชนิดนี้ สามารถใช้แขนเป็นปีกเพื่อร่อน หรือเคลื่อนไหวในอากาศได้จริงหรือไม่
นักวิจัยเผยข้อมูลเกี่ยวกับแขนที่มีขนปกคลุมคล้ายปีกนก ซึ่งมันอาจจะใช้เพื่อกระพือปีก หรือร่อนไปมาในระยะทางสั้นๆ จากต้นไม้หนึ่ง ไปอีกต้นไม้หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขาหลังที่มีขนปกคลุม ทำให้มันวิ่งได้เชื่องช้ามาก ซึ่งสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าไดโนเสาร์คล้ายนก สามารถบินขึ้นได้ อาจกระโดดลงมาจากกิ่งไม้สูง [2]
อาหารของไดโนเสาร์ ไมโครแรปเตอร์ พวกมันกินอะไรเป็นอาหารหลัก จากลักษณะปากที่เล็ก และเต็มไปด้วยฟันหยัก ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นของไดโนเสาร์คล้ายนกในยุคโบราณ และยืนยันได้ว่าพวกมันเป็นสัตว์กินเนื้อ จากการค้นพบในช่วงแรก หลักฐานฟอสซิลชี้ให้เห็นว่าพวกมันกินนกตัวเล็กเป็นอาหารหลัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการค้นพบฟอสซิลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงกระดูก เช่น อินดราซอรัส ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ตระกูลกิ้งก่าขนาดเล็กที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ก็มีการค้นพบในกระเพาะอาหารของไมโครแรปเตอร์ การค้นพบในครั้งนี้ นักวิจัยสรุปได้ว่า พวกมันอาจกินนกและกินกิ้งก่า รวมถึงปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก
ในส่วนของถิ่นที่อยู่อาศัย จากการตรวจสอบฟอสซิล พบว่าพวกมันอยู่ในยุคครีเทเชียสตอนต้น ประมาณ 125-120 ล้านปีก่อน ฟอสซิลทั้งหมดถูกพบในชั้นหินจิ่วโฟถัง ในเมืองเหลียวหนิง ประเทศจีน ก่อนที่จะกลายเป็นฟอสซิล พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นป่าไม้ และเป็นที่อยู่อาศัยของนกในยุคดึกดำบรรพ์มาก่อน [3]
หลังจากที่คุณได้ดูข้อมูลข้างต้น ที่ทางผู้เขียนนำเสนอเกี่ยวกับไดโนเสาร์ไมโครแรปเตอร์ เช่น การค้นพบตัวอย่างฟอสซิลชิ้นแรก ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับขนที่ปกคลุมร่างกาย และอาหารที่พวกมันกินเพื่อดำรงชีวิตในยุคดึกดำบรรพ์ ในส่วนถัดไป เราจะพาไปดูลักษณะกายวิภาค และข่าวสารการค้นพบฟอสซิลครั้งใหม่
ในปี 2000 ได้มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ Microraptor zhaoianus ในพื้นที่การก่อตัวของหมวดหิน Jiufotang ทางตะวันตกของประเทศจีน นักวิจัยเผยว่าพวกมันอาศัยเมื่อประมาณ 120 ล้านปีก่อน ทีมสังเกตบอกว่า ฟอสซิลนี้หายไปเกือบทั้งหมด แต่ตรงซี่โครงยังไม่บุบสลาย มีลักษณะที่มี 3 นิ้ว
พวกมันอาศัยอยู่บนต้นไม้ และร่อนตัวลงมาหลังจากเกาะบนต้นไม้ มันมีรูปร่างขนาดเล็ก เทียบเท่ากับแมวบ้านในยุคปัจจุบัน ขณะที่ไมโครแรปเตอร์บางสายพันธุ์มีขนเหมือนนก เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยเผยข้อมูลในวารสาร พบหลักฐานชิ้นแรกที่ชี้ให้เห็นว่าไดโนเสาร์กินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม คล้ายกับตัวพอสซัมสมัยใหม่
ความจริงแล้วงานวิจัยก่อนหน้านี้ บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กชนิดอื่นๆ ถูกกินด้วยไดโนเสาร์ เช่น งู สควอตเมต นก ยกเว้นพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่นักวิจัยกลุ่มนี้ได้นำเสนอว่า มีการพบซากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในท้องของพวกมัน ซึ่งเป็นไปได้ยากที่พบซากของสิ่งมีชีวิตในร่างกายไดโนเสาร์ [4]
โดยรวมแล้ว หลังจากที่มีการค้นพบซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ช่วยให้นักวิจัยได้เข้าใจ เกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่มีการวิวัฒนาการคล้ายนก ด้วยลักษณะขนที่ถูกอนุรักษ์อย่างดี และโครงสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการร่อน ทำให้ผู้คนได้เข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมที่หลากหลาย ในยุคครีเทเชียสตอนต้น
ไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรซอร์ บางครั้งเรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า เทอโรแด็กทิล ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานบินได้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่ไม่ใช่ไดโนเสาร์ โครงกระดูกมีข้อต่อสะโพกแบบพิเศษ แม้ว่าไมโครแรปเตอร์จะมีความสามารถในการร่อน แต่พวกมันไม่ใช่กลุ่มเทอโรซอร์ แต่มีความใกล้ชิดกับนกในยุคปัจจุบัน
ในปี 2012 หลังจากที่มีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดนี้ ที่มีเซลล์เม็ดสีที่ถูกเก็บรักษาไว้ จากเซลล์เหล่านี้ นักวิจัยจึงทราบว่าไมโครแรปเตอร์น่าจะมีขนสีดำมันวาว นักวิทยาศาสตร์บางท่านเชื่อว่า ดวงตาขนาดใหญ่ของมัน อาจถูกออกแบบในการล่าเหยื่อตอนกลางคืน
[1] WIKIPEDIA. (October 24, 2024). History. Retrieved from en.wikipedia
[2] ThoughtCo. (March 03, 2019). One Species of Microraptor Had Black Feathers. Retrieved from thoughtco
[3] AZ ANIMALS. (May 27, 2024). Diet. Retrieved from a-z-animals
[4] ไทยรัฐออนไลน์. (December 29, 2022). ทีมนักวิจัยนานาชาติเผยหลักฐานแรก. Retrieved from thairath