สถานที่พบ ดิปโพลโดคัส หนึ่งในการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ พวกมันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์กินพืชขนาดใหญ่ คอยาว ซึ่งอาศัยอยู่ในยุคจูราสสิกตอนปลาย ประมาณ 154-152 ล้านปีก่อน โครงกระดูกของมันถูกพบในชั้นหินมอร์ริสัน ซึ่งพบรวมกับไดโนเสาร์ชนิดอื่น สำหรับสถานที่พบฟอสซิล มีข้อมูลดังนี้
สถานที่พบ ดิปโพลโดคัส (Diplodocus) มีบันทึกการค้นพบซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ซึ่งมาจากเหมืองหินในบริเวณ Garden Parkรัฐโคโลราโด เมื่อสองนักวิทยาศาตร์ เบนจามิน แฟรงคลิน มัดจ์และซามูเอล เวนเดลล์ วิลลิสตันได้รวบรวมฟอสซิลหลายชิ้นในปี 1877 ซึ่งเป็นตัวอย่างฟอสซิลที่ไม่สมบูรณ์
สำหรับซากฟอสซิลที่ไม่สมบูรณ์แบบนี้ ประกอบด้วยกระดูกสันหลังส่วนหาง 2 ชิ้น กระดูกที่ยื่นออกมา และกระดูกสันหลังส่วนหางที่แตกหักอีกหลายชิ้น ตัวอย่างนี้ถูกส่งไปยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติพีบอดี และได้ทำการตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ขึ้นมาว่า Diplodocus longus ซึ่งมีความหมายว่า “คานคู่ยาว”
แม้ตัวอย่างฟอสซิลจะถูกพบเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีการขุดพบฟอสซิลเพิ่มเติมในเหมืองหินเฟลช์ ตั้งแต่ปี 1877-1884 ฟอสซิลเหล่านี้ถูกส่งไปให้ โอทนีเอล ชาร์ลส์ มาร์ช ประกอบไปด้วยกะโหลกศีรษะที่มีข้อต่อสมบูรณ์ ขากรรไกรล่าง ซึ่งได้รับการรายงานว่า นี่เป็นซากฟอสซิลไดพลอโดซิดสมบูรณ์ชิ้นแรก [1]
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Diplodocus
ที่มา: Quick facts about Diplodocus [2]
โครงกระดูก ดิปโพลโดคัส สายพันธุ์ Diplodocus longus ถูกระบุครั้งแรกในปี 1878 โดยนักบรรพชีวินวิทยาชาวอเมริกัน Othniel Charles Marsh Marsh เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่วมงาน ในช่วงเวลาที่ตึงเครียดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ “สงครามกระดูก” ซึ่งเป็นสงครามที่กินเวลาตั้งแต่ทศวรรษ 1870-1890
ซึ่งบริเวณโคนกระดูกสันหลังบางส่วนของพวกมัน มีความพิเศษกว่าไดโนเสาร์ชนิดอื่น โดยมีโครงกระดูกเกือบ 300 ชิ้น หางมีกระดูกกว่า 80 ชิ้นนั่นหมายความว่าเกือบหนึ่งในสามของร่างกาย สำหรับฟอสซิลโครงกระดูกที่มีความสมบูรณ์แบบ 3 ชิ้น ได้รับการรักษาไว้ที่ Carnegie Quarry ที่ Dinosaur National Monument
นักวิทยาศาสตร์คาดเดาว่า ไดโนเสาร์ตัวนี้น่าจะมีความยาวประมาณ 80 ฟุต การขุดค้นที่ Carnegie Quarry พบว่ามีโครงกระดูกของพวกมันที่เกือบสมบูรณ์แบบ 3 โครง จากการศึกษาข้อมูลในส่วนของกระดูกก้นกบส่วนสุดท้าย พบว่าพวกมันโตเต็มวัย จะมีความยาวเพียงประมาณนิ้วก้อยของมนุษย์เท่านั้น [3]
ไดโนเสาร์คอยาวดิปโพลโดคัส จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า มันใช้ฟันที่เป็นเอกลักษณ์ ในการกัดกินเฟิร์นและใบไม้อ่อนนุ่ม แต่มันไม่สามารถลอกเปลือกต้นไม้ได้ แทนที่จะเคี้ยวอาหาร พวกมันจะใช้เวลาย่อยและหมักอาหารในกระเพาะลำไส้เป็นเวลานาน ข้อมูลนี้มาจากการศึกษากะโหลกศีรษะของไดโนเสาร์วัยเด็ก
และไดโนเสาร์ในกลุ่มเดียวกัน อาจจะทำการกลืนหินลงไปในกระเพาะ เพื่อช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร และนกบางชนิดที่อยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ ก็มีพฤติกรรมแบบนี้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่สำหรับ ดิพลอโดคัส ซึ่งผู้เชี่ยวชาญถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน พวกเขาไม่คิดว่ามันจะสามารถยกหัวขึ้นสูงกว่าแนวนอนได้มากนัก
การยกหัวขึ้นอาจทำให้หัวของมันสูงได้เพียง 13 ฟุต ซึ่งสูงพอที่เอื้อมถึงแหล่งอาหารได้ดี อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไดโนเสาร์ชนิดนี้ มีข้อได้เปรียบเหนือไดโนเสาร์คอยาวชนิดอื่น เพราะมันอาจยืดตัวขึ้นด้วยขาหลัง และใช้หางเพื่อทรงตัว โดยท่าทางนี้ อาจทำให้มันเอื้อมขึ้นไปในอากาศได้สูงถึง 36 ฟุต [4]
ไดโนเสาร์กินพืช ดิปโพลโดคัส เป็นสัตว์กลุ่มซอโรพอดขนาดใหญ่ ที่ดำรงชีวิตอยู่ในยุคกลางจนถึงยุคปลายจูราสสิก ประมาณ 154-152 ล้านปีก่อน หลังจากที่คุณได้ดูข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่พบเจอฟอสซิล รวมไปถึงอาหารที่พวกมันกิน ในส่วนถัดไป ทางผู้เขียนจะนำเสนอข้อมูลลักษณะกายวิภาค และวิธีการพบเห็นพวกมัน
ที่มา: In the Media [5]
สำหรับสถานที่ที่ขุดพบเจอซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดนี้ Garden Park ยังถือเป็นแหล่งโบราณคดี ที่มีการพบหลักฐานฟอสซิลสัตว์ดึกดำบรรพ์อีกหลากหลายสายพันธุ์ และพวกมันยังเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญ ที่ช่วยขยายความรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์จากยุคจูราสสิก
ในปี 1905 นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง แอนดรูว์ คาร์เนกี ได้บริจาคโครงกระดูกของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ให้กับทางพิพิธภัณพ์คาร์เนกีในสหรัฐอเมริกา ต่อมากษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 ทรงขอสำเนาไดโนเสาร์ และได้นำไปจัดแสดงอยู่ใน Hintze Hall
สำหรับคำถามที่ถามว่า ไดโนเสาร์ตัวนี้สูญพันธุ์ได้อย่างไรนั้น คาดว่าในช่วงปลายยุคจูราสสิก เกิดเหตุการณ์ของการพุ่งชนของอุกกาบาต ส่งผลกระทบต่อไดโนเสาร์ชนิดนี้ รวมไปถึงไดโนเสาร์ชนิดอื่น ที่ร่วมอาศัยอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
[1] WIKIPEDIA. (January 14, 2025). Discovery and history. Retrieved from en.wikipedia
[2] The Dinosaur Database. (2025). Quick facts about Diplodocus. Retrieved from dinosaurpictures
[3] National Park Service. (2025). A Very Long Dinosaur. Retrieved from nps
[4] AZ ANIMALS. (May 27, 2024). Diet. Retrieved from a-z-animals
[5] DINOPEDIA. (2025). In the Media. Retrieved from dinopedia.fandom