โคลอสเซียม ประวัติ Colosseum 1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

กุมภาพันธ์ 17, 2025

โคลอสเซียม ประวัติ Colosseum หรือ ทวิอัฒจันทร์ฟลาเวียน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรับชมประวัติ และที่ตั้งของสถานที่แห่งนี้กัน หากพร้อมแล้วไปชมกันค่ะ

หนึ่งสิ่งสุดมหัศจรรย์ที่มายาวนาน

โคลอสเซียม ประวัติ ทวิอัฒจันทร์ฟลาเวียน สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ซึ่งได้มานานมากจนในตอนนี้กลายเป็นหนึ่งสถานที่ ที่ผู้ทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจกันมากที่สุด

ที่ไปที่มาของ ทวิอัฒจันทร์ฟลาเวียน

Coliseum ที่มาของโคลิเซียม เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลีที่ทำการก่อสร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส คริสต์ศตวรรษที่ 1

ลักษณะโดยรวมของ โคลิเซียม

ลักษณะที่ออกมา: รูปวงรี พื้นฐานได้รับมาจากโรงละครสองแห่งที่ติดกัน มีความยาว 189 เมตร (615 ฟุต / 640 ฟุตโรมัน) และกว้าง 156 เมตร (510 ฟุต / 528 ฟุตโรมัน) โดยมีพื้นที่ฐาน 24,000 ตารางเมตร (6 เอเคอร์) ความสูงของกำแพงด้านนอกคือ 48 เมตร (157 ฟุต / 165 ฟุตโรมัน) เส้นรอบวงเดิมวัดได้ 545 เมตร (1,788 ฟุต / 1,835 ฟุตโรมัน) เวทีกลางเป็นรูปวงรียาว 87 เมตร (287 ฟุต) และกว้าง 55 เมตร (180 ฟุต) ล้อมรอบด้วยกำแพงสูง 5 เมตร (15 ฟุต) เหนือขึ้นไปมีที่นั่งเป็นชั้น ๆ
สร้างด้วย: หินทรายและอิฐ
โดยรอบได้ประมาณ: 527 เมตร สูง 57 เมตร
สามารถจุคน: ได้ 50,000 คน
เปิดใช้งาน : ครั้งแรกในปี ค.ศ. 80 สมัยจักรพรรดิติตุส (ซึ่งไม่สมบูรณ์ดี)
พื้นที่: หุบเขาเตี้ย ๆ ระหว่าง เนินเขา Caelian , Esquiline และ Palatine
ความเสียหาย: การไฟไหม้ครั้งใหญ่ จากฟ้าผ่าตามคำบอกเล่าจาก Dio Cassius , เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 443, แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1349
ได้รับการซ่อมแซมเพิ่มเติม : ในปี 250 หรือ 252 และอีกครั้งในปี 320
การต่อสู้ถูกสั่งห้ามในปี : 399 และอีกครั้งในปี 404 โดย โฮโนริอุส และถูกกล่าวถึงครั้งสุดท้ายประมาณปี 435
การใช้งานสนาม: ยังคงใช้สำหรับการแข่งขันต่าง ๆ จนถึงศตวรรษที่ 6

ที่มา: โคลอสเซียม (Colosseum) [1]

จุดประสงค์ในการสร้างสนามแห่งนี้

สำหรับจุดประสงค์ ในการสร้างสนามนี้ขึ้นมา เพราะใช้เป็นสถานที่สำหรับ จัดการแข่งขันประลองฝีมือของกษัตริย์, กลาดิเอเตอร์ ซึ่งเป็นนักสู้ที่มาต่อสู้กัน มาเพื่อสร้างสีสันให้กับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งพวกเขาก็คือทาส ที่โตมากับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ต้องตัวรอดจากการถูกกีดกัน การต่อสู้ของพวกเขานั้นก็เพื่อกับอิสรภาพ และนั่นก็ต้องมาด้วยชีวิตเช่น

นอกจากเหล่า กลาดิเอเตอร์ แล้วยังมีการแข่งขันของสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สิงโต ช้าง เสือ กระทิง หรือ หมี เป็นต้น ซึ่งการต่อสู้จะมีทั้งแบบสู้กันเองและสู้กับ กลาดิเอเตอร์ [2]

การบูรณะและความสำคัญทางศาสนา

สำหรับการบูรณะ และความสำคัญทางศาสนา ของทางโคลอสเซียม ได้ถูกบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง ตามการปกครองตามยุคสมัยดังนี้

การบูรณะในยุคสมัยใหม่

เริ่มต้นการบูรณะในปี 2011 โดย Diego Della Valleหัวหน้าบริษัทผลิตรองเท้า Tod's ได้ตกลงสนับสนุนการบูรณะโคลิเซียมด้วย 25 ล้านยูโร ซึ่งจะเริ่มในปี 2011 แต่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากเกิดความขัดแย้ง และต่อมาได้เริ่มทำการบูระอย่างจริงจังในปี 2013 โดยเริ่มจากการทำความสะอาด และซ่อมแซมส่วนหน้าของอาคาร

ซึ่งโดยรวมเสร็จสิ้นในปี 2016 วันที่ 1 กรกฎาคม และตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 สองชั้นบนได้เปิดให้เข้าชมโดยมีไกด์คอยนำทาง ส่วนชั้นที่ 4 เปิดเป็นตลาด และสำหรับชั้นบนสุด เป็นที่สำหรับรับชมการแสดง [3]

ความสำคัญทางศาสนา

ว่ากันว่า Pope Pius V หรือ สมเด็จพระสันตปาปาปิอุสที่ 5 (ค.ศ. 1566–1572) ทรงแนะนำให้ผู้แสวงบุญรวบรวมทรายจากลานประลองของโคลอสเซียมเพื่อนำมาทำเป็นพระบรมสารีริกธาตุ โดยให้เหตุผลว่าทรายนั้นถูกอาบด้วยเลือดของบรรดามรณสักขี แม้ว่าผู้ร่วมสมัยของพระองค์บางคนจะไม่เห็นด้วยกับพระองค์ก็ตาม

สรุป โคลอสเซียม ประวัติ

สรุปแล้ววันนี้เราได้มาเผยแพร่ความเป็นมาของหนึ่งในสถานที่สุดมหัศจรรย์ของโลก ให้ทุกท่านได้รับชมซึ่งสถานที่แห่งมีอายุมายาวนาน และถูกบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นจุดสนใจที่สุดในประวัติศาสตร์

สถานที่ตั้งของโคลอสเซียม

สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 70–80 หรือ 1945 ปีก่อน ในกรุงโรมประเทศอิตาลี ถูกสร้างขึ้นโดย เวสปาเซียนไททัส ซึ่งเป็นสนามกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โคลอสเซียมถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร

สถานที่แหง่นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไว้ใช้การแข่งขัน ประลองต่อสู้ของกษัตริย์ รวมถึง เหล่านักสู้และสัตว์ใหญ่ เพื่อสร้างความบันเทิง และปลดเปลื้องจากการเป็นทาสของเหล่า กลาดิเอเตอร์