Torre Pendente di Pisa เปิดตำนานหอคอยที่ทำให้คนทั้งโลกต้องตะลึง เหตุผลเพราะอะไร แล้วทำไมหอคอยแห่งนี้ถึงยังไม่ล้ม วันนี้เราจะพาทุกท่าน ไปรับชมความเป็นมา ของหอคอยแห่งนี้กันค่ะ
ตำนานหอคอยที่ทำให้คนทั้งตะลึง
หอเอนเมืองปิซา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว แสนสำคัญในเมืองปีซา และถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอีกด้วย โดยประวัติของหอคอยแห่งนี้ ก็มีความน่าสนใจมากเช่นกัน ดังนี้
ความเป็นมาของหอเอนปิซา
การก่อสร้างนั้นเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1173 และการก่อสร้างได้มีการหยุดชะงักไปถึง 2 ครั้งด้วยกัน ในครั้งแรกหยุดไปเพราะพบสาเหตุ ของพื้นใต้ดินนั้นนิ่มเกินไป ซึ่งสร้างได้เพียงสามชั้นเท่านั้นเอง และด้วยเหตุผลจึงทำให้ตัวอาคารเกิดการยุบตัว
โดยเอนไปทางทิศเหนือในปี ค.ศ. 1272 ตัวอาคารได้ถูกทำให้เอียง ไปทางทิศใต้เพื่อให้เกิดสมดุลโดย จีโอแวนนี่ ดี สิโมน แต่ทว่าการก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดไปอีกครั้งเพราะเกิดสงคราม โดยภายหลังได้เริ่มการสร้างขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ได้รับการปรับปรุงเรื่อยมา เพื่อชะลอการล้มของหอคอย [1]
ข้อมูลทั่วไปของหอเอนปิซา
- ชื่อ: หอเอนเมืองปิซา, La Torre di Pisa
- ตั้งอยู่ที่: ในจัตุรัส เปียซซา เดล ดูโอโม, เมืองปิซา, ประเทศอิตาลี
- เริ่มสร้างวันที่: 9 สิงหาคม ค.ศ. 1173
- พิกัด: 43°43′23″N 10°23′47″E
- เวลาสร้าง: ประมาณ 175 ปี
- ลักษณะ: เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร)
- วัสดุ: หินอ่อนสีขาว
- สูงและหนัก: 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) หนักรวมประมาณ 14,500 ตัน
- บันได: รวมทั้งสิ้น 293 ขั้น
- องศาการเอียง: 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร
- สร้างเสร็จ: ในปี ค.ศ. 1372
- เอียงเพิ่มขึ้น: 1 นิ้ว ทุก 20 ปี คาดการณ์ว่าจะล้มในปี ค.ศ. 2220
ที่มา: Leaning Tower of Pisa [2]
รวม 5 สิ่งที่เกี่ยวกับหอคอย และจุดเช็กอินที่พลาดไม่ได้
นอกจาก กำแพงเมืองจีน หรือ The Great Wall of China แล้วทางด้านหอคอยแห่งนี้ก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์เหมือนกัน โดยต่อไปเราจะพาทุกท่านไปรับชม 5 สิ่งควรรู้และจุดเช็กอิน รวมถึงวิธีการไปเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้กันด้วย
5 สิ่งน่ารู้และจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาด
- สถานที่ตั้งของหอคอยแห่งนี่อยู่ใน Piazza del Duomo หรือที่รู้จักกันนามของ จัตุรัสแห่งปาฏิหาริย์ (Piazza dei Miracoli) ซึ่งอยู่ในเมือง ปิซา ตั้งอยู่ทางเหนือของแม่น้ำ Arno ประเทศอิตาลี
- อาสนวิหารปิซา ที่อยู่ถัดจากหอเอน ถึงคนส่วนใหญ่จะมุ่งตรงไปที่หอเอนปิซา แต่จุดศูนย์รวมที่ใหญ่ที่สุดในจรัสคือ อาสนวิหารปิซา (ดูโอโมปิซา)
- หอคอยกับความสูง 57 เมตร ที่แม้ว่าจะดูสูงแค่ไหนหากเทียบกับหอไอเฟล ก็ไม่ได้สูงอย่างที่เราคิด แม้จะมีความสูงที่ไม่มากนัก แต่เรากลับถูกดึงดูดด้วยความงดงามของหินอ่อนสีขาว และความลาดเอียงที่ทำให้สถานที่แห่งนี้โด่งดังไปทั่วโลก
- รู้หรือไม่ว่าก่อนที่จะมีการบูรณะเกิดขึ้น หอคอยมีการเอียงเพิ่มขึ้นซึ่งทำมุมถึง 5.55 องศา แต่หลังจากที่มีการบูรณะแล้ว จึงทำให้มีการยืดออกเล็กน้อยเพื่อชะลอการล้มลงของหอคอย
- แม้ว่าหอคอยจะเอียงแลดูไม่ค่อยไม่มั่นคง แต่เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมความสวยงามภายในได้ และสามารถขึ้นไปยอดได้อย่างปลอดภัยด้วยน่าทึ่งมั้ยละ
รวมจุดเช็กอินที่ห้ามพลาด
- Battistero di San Giovanni หอศีลจุ่ม เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีชำระบาปของชาวคาทอลิก ตัวอาคารเป็นทรงกระบอก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ผสมกอทิก เป็นหอศีลจุ่มที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี
- จัตุรัส Piazza del Duomo จัตุรัสที่มีลานกว้างมาก ๆ โดยรอบมีรั้วและเป็นตั้งของหอเอนและหอศีลจุ่ม ศึกเป็นจุดที่ทุกคนต้องเดินผ่าน บางคนก็ไปเดินเพื่อผ่อนคลายกันด้วย
- Camposanto Monumentale di Pisa ที่แห่งนี้อยู่ทางทิศเหนือของมหาวิหารปิซ่า เป็นสถานที่สำหรับฝังศพที่เคยกระจายทั่วไปในสมัยก่อน สำหรับภายในอาคารตกแต่ง ด้วยจิตรกรรมฝาผนัง เกี่ยวกับชีวิตและความตาย จากผลงานของ Francesco Traini และ Bonamico Buffalmacco และมีวัตถุโบราณให้ได้รับชมกันด้วย
- Cattedrale di Pisa มหาวิหารหลักของเมืองปิซา ตั้งอยู่ใกล้กับหอเอน เป็นสิ่งอาคารที่เก่าแก่ที่สุดภายในจัตุรัส สร้างเพื่อเป็นที่ประทับของ อาร์ชบิชอป โดย สถาปนิกชาวอิตาเลียนนามว่า Buscheto ภายในตกแต่งด้วยเสาหินขนาดใหญ่ และจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามด้วย
ที่มา: หอเอนปิซ่า (Leaning-Tower-of-Pisa) [3]
สรุป หอเอนแห่งเมืองปิซา
สรุปแล้วสำหรับวันนี้ เราได้พาทุกท่านไปรับชมสถานที่สุดอลังการ ที่ถูกสร้างมาหลายร้อยหลายพันปี จนถูกยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ และมรดกโลกไปในที่สุด
สถานที่ตั้งและบริเวณโดยรอบ
หากท่านไหนอยากไปท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้ ต้องเดินทางไปยังประเทศอิาลี เมืองปิซา หากจองโรงแรมมีห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเดินทางไปได้หลายช่องทาง ทั้งทางรถไฟ รกบัส และ รถยนต์ ซึ่งก่อนออกเดินทางควรศึกษาให้ละเอียดก่อน
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 6 ยุคกลาง
หอเอนปิซาถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน Seven Wonders of the World และต่อมาก็กลายเป็นมรดกโลกในปี 2530 ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างยุคกลางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคนทั่วโลกเลยทีเดียว
อ้างอิง
[1] Wikipedia. (December 24, 2024). หอเอนปิซา. Retrieved from Wikipedia
[2] Wikipedia. (February 13, 2025). Leaning-Tower-of-Pisa. Retrieved from Wikipedia
[3] Traveloka. (May 3, 2024). หอเอนปิซ่า (Leaning-Tower-of-Pisa) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต. Retrieved from Traveloka